ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

SAP Master Data(Material Master)

material master ใช้กับทุกๆโมดูลใน SAP Logistics component ซึ่งการใช้ข้อมูล material ร่วมกันในหนึ่งฐานข้อมูลก็หมายความว่าหมดปัญหาเรื่องข้อมูลซ้ำซ้อน ข้อมูลสามารถมาใช้ได้ในทุก area เช่น การจัดซื้อ (purchasing) , การบริหารจัดการคลังสินค้า (inventory management) ,การวางแผนวัสดุ (material planning) หรือ อื่นๆ ข้อมูลที่อยู่ใน material master ก็มีความต้องการใน แต่ละฟังก์ชั่นงานใน SAP Logistics component เช่น Ordering in Purchasing การ update movement สินค้า ใน Inventory Managment การ Posting invoices ใน Invoice กระบวนการรับคำสั่งขาย Sales orders ใน Sales การวางแผน ,การจัดเวลาทำงาน scheduling ใน Production Planning and Control
แสดงความคิดเห็น
อ่านเพิ่มเติม

SAP Master Data(Customer Master)

SAP มีข้อมูลที่เก็บอยู่ในฐานข้อมูลและใช้งานร่วมกันหลายๆ โมดูลเรียกว่า Master Data เช่นข้อมูล vendor , ข้อมูล materials ,ข้อมูล accounts ยกตัวอย่าง Customer ก็เป็น master data ที่ใช้สำหรับการร้องขอจากลูกค้า , การจัดส่ง (deliveries) ,ใบกำกำสินค้า (invoices) หรือการจ่ายของลูกค้า payments ซึ่ง master data ก็ต้องมีการ กำหนด (assign)เข้าักับ organizational units master data ก็ยังใช้ข้าม component เช่น customer masterก็เป็นข้อมูลเดียวกันที่ใช้ใน financial accounting and sales customer master สามารถถูกกำหนดให้กับ organizational units : company code , sales organization,distribution channel หรือ devision เราทำอะไรกับ Customer Master เมื่อเราสร้าง customer master เป็นการใช้ข้อมูล (share) ในระดับ client และมีข้อมูลที่เรียกว่า company code-specific สำหรับแต่ละ company code การกำหนดให้ข้อมูล อยู่ระดับ Client นั่นหมายความว่า ลูกค้าจะสามารถถูกมองเห็็นจาก AR ของทุกๆ company code สำหรับการ implement SAP sales and Distribution เราต้องเพิ่มเติมฟิลด์ที่จำเป็นสำหรับงาน sales สรุป ก...
แสดงความคิดเห็น
อ่านเพิ่มเติม

เริ่มต้น SAP SD

เริ่มต้น SAP SD ก่อนอื่นต้องรู้จักพื้นฐานของ SAP ควรรู้จักคำศัพท์ ,หลักการทำงาน ของ SAP ก่อน ค่อยเข้าสู่ Sales and Distribution จริงๆ (SD) 1. SAP R/3 Basis Technology 2. Business Framework Architecture ที่เรียกว่า R/3 เพราะว่า SAP แยก Layer เป็น 1. Presentation คือ SAPGUI 2. Application คือwork process 3. Database คือ database ซึ่งอาจจะเป็น oracle หรือ MS sqlก็ได้ การแยกแบบนี้ทำให้ขยายระบบเพื่อรองรับขนาดขององค์กรได้ง่าย ส่วน Business Transactions เริ่มจาก 1. user ที่ใช้งานในระบทำ transaction 2. ส่งไปยัง SQL Query โดยผ่าน ABAP Dictionary ใน Database จริงๆ แล้ว 3. แล้วจัดรูปแบบ และส่งต่อผลไปยัง ABAP Dictionary 4. ผลลัพธ์ก็จะแสดงให้ผู้ใช้งานเห็นบนจอ SAP Business Objects คืออะไร SAP แทนลักษณะของจริงๆ เรีกยว่า Business Object เช่น พนักงาน และพนักงานก็จะมี ชื่อ , ที่อยู่ เรียกว่าเป็น Attribute หรือ Characteristics และพนักงานสามารถเลื่อนตำแหน่งได้ เรียกว่าเป็น Method
แสดงความคิดเห็น
อ่านเพิ่มเติม